หม่อมแดง – จากกรณีการเสียชีวิตของ ม.ร.ว.เจริญศรี กมลาศน์ หรือ หม่อมแดง ภายในบ้านพัก ซอยปรีดีพนมยงค์ 42 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม.
ปัญหาที่ตามมาคือข้อพิพาทระหว่างญาติของหม่อมแดงกับป้านุช คนดูแลของหม่อมแดง
ซึ่งอยู่กับหม่อมแดงตั้งแต่อายุ 15 โดยเกิดข้อครหาว่าป้านุชกีดกันญาติไม่ให้พบหม่อมแดง และมีรายงานว่า ป้านุชพิมพ์ลายนิ้วมือหม่อมแดงเก็บไว้ด้วย จึงเกิดเป็นข้อพิรุธว่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องสมบัติหรือไม่ แต่ญาติป้านุช อ้างว่า การพิมพ์ลายนิ้วมือ หม่อมแดงอนุญาตให้ป้านุชทำได้ ตอนที่พิมพ์ลายนิ้วมือศพ ครอบครัวป้านุชก็อยู่ด้วย
แต่คำกล่าวอ้างนี้ขัดแย้งกับ นางสาวเอ ผู้เคยช่วยหม่อมแดงขายอสังหาฯ ระบุว่า หม่อมแดงเคยขอให้พาหนี ทั้งยังบอกว่าป้านุชเอาลายนิ้วมือหม่อมแดงไปเบิกเงินที่ธนาคาร แต่ไม่รู้ว่าธนาคารใด (แสดงว่ามีการพิมพ์ลายนิ้วมือตั้งแต่ก่อนเสียชีวิต?)
พิรุธอีกอย่างคือในวันเสียชีวิตของหม่อมแดง เพื่อนบ้านเล่าว่าบ้านถูกล็อก คนในบ้านบอกตำรวจว่า หม่อมแดงไม่มีญาติ (ขัดกับคำสัมภาษณ์ของเพื่อนบ้านที่ระบุว่า หม่อมไม่เคยบอกว่าไม่มีญาติ แถมบอกด้วยซ้ำว่าหากตายให้ติดต่อญาติ) ต่อมามีป่อเต็กตึ๊งมาเก็บศพ เพื่อนบ้านก็ขึ้นไปดูด้วย หม่อมแดงเสียชีวิตในลักษณะนั่งพิงเตียง คอตก ขาเหยียด เสียชีวิตมาแล้วหลายชั่วโมง
ส่วนกู้ภัยระบุว่า ได้รับแจ้งมีคนชราเสียชีวิต คนในบ้านบอกว่าตายด้วยโรคชรา ไม่จำเป็นต้องให้กู้ภัยนำร่างไปส่งโรงพยาบาล เพื่อนบ้านสังเกตว่าห้องเก่ามาก ทั้งเตียงและตัวบ้านมีปลวกขึ้น ทั้งที่หม่อมแดงรวยมาก ทำไมปล่อยถึงอยู่บ้านโทรม ๆ
อมรินทร์ทีวี ได้เปิดเผยทรัพย์สินหม่อมแดงว่าประกอบด้วย ร้านหนังสือบริเวณข้างที่ว่าการกทม ที่ดินและบ้าน 1410 ตร.ว. ที่ดินในจังหวัดชลบุรี 6 ไร่ เงินฝากและทองในตู้เซฟ และที่ดินรวมอาคารอพาร์ตเมนต์แถวบางลำพู รวมแล้วเกือบ 100 ล้านบาท คำถามที่ตามมาคือ ทรัพย์สินของหม่อมแดงจะตกเป็นของใครนั้น เพื่อนบ้านระบุว่า คำสั่งเสียของหม่อมแดงว่าหากตามหาญาติไม่พบ ขอให้สมบัติตกเป็นของแผ่นดิน
“กระทรวงยุติธรรม” กำหนดวันจำเลย “คดีแพรวา” ชดใช้เหยื่อ 9 ศพ คดีแพรวา ปัจจุบัน – เมื่อวันที่ 23 ก.ค. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการยุติธรรม นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม และดร.กรศุทธิ์ ขอพ่วงกลาง ผู้อำนวยการศูนย์นิติศาสตร์คณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และผู้แทนจากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมกันแถลงกรณีการช่วยเหลือเหยื่อในคดีของ น.ส.แพรวา เทพหัสดิน ณ อยุธยา ที่ขับรถเก๋งชนรถตู้โดยสารจนมีผู้เสียชีวิต 9 ศพ
ดดีดังกล่าวมีผู้เสียหายเป็นโจทย์ 25 ราย และมีจำเลย 4 ราย ศาลฎีกาพิพากษาให้จำเลยที่ 1-3 ชดใช้ค่าเสียหาย รวมเป็นเงิน 21.9 ล้านบาท ส่วนจำเลยที่ 4 ผู้ที่ให้ น.ส.แพรวายืมรถไปขับต้องร่วมชดใช้ประมาณ 2.8 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยอัตรา 7.5 ต่อปี จำเลยทั้ง 4 ต้องชดใช้เป็นจำนวนเงินประมาณ 40 ล้านบาท
กำหนดวันที่ต้องชดใช้ คือวันที่ 28 ส.ค. 30 วันหลังจากคำบังคับคดีมีผล ทั้งนี้ หากจำเลยไม่ชดใช้เงินค่าเสียหายในระยะเวลาที่กำหนด ก็จะเริ่มเข้าสู่ขั้นตอนที่ทนายโจทก์ขอศาลออกหมายตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดี เพื่อให้กรมบังคับคดียึดทรัพย์ ประกาศขายทอดตลาดต่อไป
ขันเงิน เข้าใจ มิกซ์ VKL เป็นใครใครก็โกรธ แต่ไม่ต้องแต่งเพลงมาด่าพี่
หลัง ‘มิกซ์ VKL’ เพทาย วงษ์คำเหลา ลูกชาย หม่ำ จ๊กมก ออกมาแต่งแร็ปด่า ขันเงิน เนื้อนวล หรือ ขันเงิน ไทเทเนียม ในลักษณะว่าเคยยกมือไหว้ 3 ครั้ง แต่อีกฝ่ายไม่เคยรับไหว้ ทำให้ฝ่ายขันเงินต้องออกมาอธิบายผ่านอินสตาแกรมว่าตกสายตาไม่ดี ล่าสุด วานนี้ (22 ก.ค.) ขันเงินได้ให้สัมภาษณ์ ว่าจริงๆ เป็นคนสนุกสนานเฮฮา แต่ข้อสัยคือเป็นคนสายตาไม่ดี ถ้าเห็นใครไกลๆ จะไม่ทักเลย เพราะกลัวทักผิด และพยายามที่จะนิ่งๆ ไว้ ยิ่งตอนกลางคืน ก็จะยิ่งมองไม่เห็น
“ถ้าใครอยู่ไกลๆ ผมจะไม่ค่อยกล้าทักเลย เพราะว่าเคยทักผิดบ่อยแล้วมันดูเสร่อไง (หัวเราะ) จริงๆ คือผมไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ ว่าน้องเขาเคยมาไหว้ผม ถ้าผมรู้ตัวก็ต้องรับไหว้กลับอยู่แล้ว ลูกพี่หม่ำยังไงผมก็ต้องคุยหรือเปล่า แต่คือผมไม่รู้ตัว น้องบอกด้วยว่าเคยมาทักทายผมถึง 3 ครั้ง อาจจะเป็นความผิดของผมที่มองไม่เห็น ไม่รู้ว่าอยู่ในจุดไหน บางทีอาจจะไม่ได้มีสมาธิที่จะคุยอะไร”
อย่างไรก็ตาม ขันเงินยืนยันว่าไม่มีอะไรหมางใจกับมิกซ์ ตัวเองอยู่ในฐานะรุ่นพี่ก็ต้องเป็นที่เคารพที่ถูกต้อง เรื่องนี้จึงไม่ได้คิดอะไรมาก แต่ยังไม่มีฌอกาสคุยกับอีกฝ่าย และฝากบอกว่า “ไม่มีอะไรและไม่รู้ตัวจริงๆ แล้วต้องขอโทษด้วยนะที่มองไม่เห็น วันหลังมาทักถึงตัวได้เลย”
“ผมว่ามันเป็นความรู้สึกของคน ถ้าผมยกมือไหว้ใครสักคนแล้วเขามองไม่เห็นผม 3 ครั้ง ผมก็มีสิทธิ์ที่จะรู้สึกโกรธใช่ไหม (หัวเราะ) เลยให้อภัยน้อง ถือว่าคราวหน้าเดี๋ยวคุยกันแล้วกัน ไม่ต้องมาทำเพลงด่าพี่ก็ได้ (หัวเราะ)” เรื่องเพลงแร็ปด่าตน ขันเงินเผยว่าได้ยินเพลงนี้แล้ว มีคนส่งมาให้ฟัง ฟังแล้วก็ขำ เพราะความผิดนี้เกิดขึ้นกับตนบ่อย เรื่องที่ทักแล้วมองไม่เห็น แต่ก็อย่างที่ได้บอกไปคือตนมองไม่เห็นจริงๆ แถมยังใส่แว่นดำตลอดอีก
อย่างไรก็ตาม ตนทำรายการ The Rapper เพื่อสนับสนุนคนรุ่นใหม่ แล้วตนจะไม่ทักคนรุ่นใหม่ได้อย่างไร เพราะทุกคนมีความหมายต่อสิ่งที่ตนทำอยู่ ส่วนเรื่องเนื้อเพลงที่ออกมานั้น ก็รู้สึกเฉยๆ แต่เร็วๆ นี้จะมีเพลงใหม่ปล่อยมา เป็นเพลงประมาณว่า เอาอย่างที่สบายใจ ซึ่งเป็นเพลงที่ทำกับโต้ง (Twopee) ความหมายของเพลงอาจจะไปตรงกับสถานการณ์พอดี แต่ยืนยันว่าไม่ใช่เพลงที่ทำออกมาโต้ตอบมิกซ์อย่างแน่นอน เพราะมีการทำเพลงนี้มาก่อนนานแล้ว ก่อนที่จะมีข่าวนี้ขึ้นมา